#ทำไมยังไม่ท้อง
เจาะเลือดเช็ค 2 ฮอร์โมนเบื้องต้น
#คัดกรองผู้มีบุตรยาก
ปรึกษาปัญหามีบุตรยาก ที่ Line Official คลิกลิ้งค์นี้เลย
https://lin.ee/fBa4xkz
แม่ๆที่อยากท้องแต่เบบี๋ก็ไม่มาสักที ทั้งที่ร่างกายก็แข็งแรงดี ทำไมยังไม่ท้องนะ
หากลองมาเป็นปีแล้วยังไม่ท้องควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ โดยปกติที่เราคิดว่าเราแข็งแรงดีแต่ฮอร์โมนภายในนั้นเราไม่อาจทราบได้ เมื่อไปพบแพทย์ แพทย์จะตรวจเลือดเพื่อเช็คฮอร์โมน 2 ตัวนี้เป็นเบื้องต้นเพื่อคัดกรองว่าแม่ๆเป็นผู้มีบุตรยากหรือไม่
ได้แก่ฮอร์โมนตัวไหนบ้างนั้น ไปศึกษาพร้อมกันเลยค่ะ
1. ฮอร์โมนไทรอยด์ Thyroid-stimulating hormone (TSH)
แพทย์จะตรวจเลือดหาค่าฮอร์โมน TSH เพื่อดูการทำงานของต่อมไทรอยด์ ซึ่งหากมีภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (Overactive thyroid หรือ Hyperthyroidism) #อาจส่งผลให้กิดภาวะไข่ไม่ตก ซึ่งเป็นสาเหตุของการมีบุตรยาก หรือ #ทำให้ไม่เกิดการฝังตัวของทารกหรือการแท้ง
TSH เป็นฮอร์โมนที่สร้างจากต่อมใต้สมอง (Pituitary gland) ทำหน้าที่กระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมน T3 (Triiodothyronine) และ T4 (Thyroxine)
หากต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนได้ตามปกติค่า TSH จะต่ำ
หากต่อมไทรอยด์ไม่สามารถสังเคราะห์ไทรอยด์ฮอร์โมน หรือสังเคราะห์ได้น้อยเกินไปไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เช่น ในกรณีที่มีการขาดสารไอโอดีน ต่อมใต้สมองจะหลั่ง TSH ออกมามากขึ้น เพื่อกระตุ้นต่อมไทรอยด์ ทำให้ค่า TSH สูง
ค่าปกติอยู่ที่ 0.4-4.0 mU/L
หากระดับ TSH มีค่าอยู่ระหว่าง 15-20 mU/L จะต้องติดตามผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด
ถ้าระดับ TSH มากกว่า 20 mU/L แสดงว่าต่อมไทรอยด์ไม่สามารถสร้างฮอร์โมนได้อย่างเพียงพอ
ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน คือ ภาวะความผิดปกติของฮอร์โมนที่มีมากเกินไป ทำให้ร่างกายมีกระบวนการเผาผลาญที่มากขึ้น และทำให้เกิดอาการต่างๆ ขึ้น เช่น ตื่นเต้นและวิตกกังวล อยู่ไม่สุข น้ำหนักลด และต่อมไทรอยด์บวมโต
ผู้หญิงจะมีโอกาสเป็นภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินมากกว่าผู้ชาย 10 เท่า ส่วนมากผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการครั้งแรกในอายุระหว่าง 20-40 ปี แต่ก็อาจพบได้ในทุกช่วงอายุ
#อาการของต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินคือ #ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือ #ประจำเดือนขาด ส่งผลให้ไข่ไม่ตกทำให้มีบุตรยากนั่นเองค่ะ
2.ฮอร์โมนโปรแลคติน Prolactin (PRL)
โปรแลคติน (Prolactin)เป็นฮอร์โมนผลิตออกมาจากสมองส่วนหน้าเช่นเดียวกับ FSH และ LH มีหน้าที่กระตุ้นต่อมน้ำนมให้สร้างน้ำนมเพื่อเลี้ยงทารก ระดับโปรแลคตินจะสูงในสตรีขณะตั้งครรภ์และขณะให้นมบุตร จึงเรียกว่าเป็นฮอร์โมนน้ำนม #ฮอร์โมนตัวนี้จะกดวงจรการตกไข่ เพราะมันมีอำนาจยับยั้งการหลั่งของ FSH และ LH ซึ่งเป็นฮอร์โมนรังไข่และฮอร์โมนตกไข่ เมื่อ FSH และ LH ลดลง การกระตุ้นการทำงานของรังไข่ก็ลดลง ทำให้การผลิตฮอร์โมนจากรังไข่ลดลง และไม่ตกไข่
ระดับโปรแลคตินมีค่าปกติอยู่ที่ไม่เกิน 25 mcg/L
หากมีภาวะโปรแลคตินสูงในสตรีที่ไม่ตั้งครรภ์ และไม่ได้ให้นมบุตร จะมีผลกระทบต่อการทำงานของรังไข่ด้วย มีความรุนแรงต่างกันแล้วแต่ระดับของฮอร์โมนที่ผิดปกติและปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกาย
ตั้งแต่มีการตกไข่ปกติ
มีการตกไข่แต่ระดับโปรเจสเตอโรนต่ำ
การตกไข่ไม่สม่ำเสมอ หรือไม่ตกไข่เลย ทำให้บางครั้งประจำเดือนไม่สม่ำเสมอหรือขาดประจำเดือน
ดังนั้นแม่ๆควรมาพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพื่อคัดกรองผู้มีบุตรยากในเบื้องต้น เพื่อทำการรักษาปรับฮอร์โมนดังกล่าวให้เป็นปกติ นอกจากนี้ยังมีฮอร์โมนอีกหลายตัวที่แพทย์จะตรวจเพื่อประเมินการรักษาผู้มีบุตรยาก ได้แก่ การประเมินจำนวนฟองไข่ตั้งต้น (AMH) การประเมินการทำงานของรังไข่(FSH) ประเมินการตกไข่ (LH) เป็นต้น ซึ่งครูก้อยจะนำข้อมูลดีๆมาฝากต่อไปค่ะ